shopify กับ wordpress เป็นเครื่องมือที่ใช้ในการสร้างเว็บสำเร็จรูป ทำให้การสร้างร้านค้าออนไลน์ของคุณด้วยตนเองนั้นง่ายกว่าที่เคย ซึ่งเราจะมาแนะนำเครื่องมือ 2 รูปแบบนี้ให้คุณได้ทำความรู้จักกัน และยังจะแสดงให้เห็นถึงข้อเปรียบเทียบของ shopify กับ wordpress อีกด้วย
shopify กับ wordpress
โดย Shopify เป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ ที่ช่วยทำให้คุณสร้างร้านค้าออนไลน์ของคุณเอง มีการนำเสนอโฮสต์ไซต์ให้กับคุณ และมอบเครื่องมือทั้งหมดตามที่คุณต้องการ ในทางตรงกันข้าม WordPress เป็นแพลตฟอร์มโอเพ่นซอร์ส ที่คุณต้องมีโฮสต์ไซต์ของคุณเอง และติดตั้งปลั๊กอิน เช่น…WooCommerce เพื่อใช้เป็นเครื่องมืออีคอมเมิร์ซ ซึ่งทั้ง 2 โปรแกรมนี้ตอบสนองความต้องการในการใช้งานที่แตกต่างกันมาก ดังนั้นเรามาทำความรู้จักกันเลยดีกว่า
แนะนำการใช้งาน shopify กับ wordpress
WordPress.com เป็นแพลตฟอร์มบล็อกที่ทำงานเป็นเครื่องมือในการสร้างเว็บไซต์ ทำให้คุณสร้างเว็บไซต์ของตัวเองได้อย่างง่ายดาย แต่สำหรับ WordPress.org เป็นซอฟต์แวร์ที่โฮสต์เองและมีการใช้เทคนิคขั้นสูงกว่ามาก คุณสามารถสร้างเว็บไซต์ได้แทบทุกประเภทด้วย WordPress.org รวมถึงการสร้างร้านค้าออนไลน์ ดังนั้น WordPress รุ่นนี้จะเป็นรุ่นที่นำไปเปรียบเทียบกับ Shopify
ขอแนะนำให้คุณใช้โปรแกรม WordPress if
- ถ้าคุณมีความรู้ด้านการเข้ารหัสบางรูปแบบ
- ถ้าคุณมีงบประมาณที่จะจ้างโปรแกรมเมอร์เข้ามาช่วยเหลือในบางส่วน
- ถ้าคุณต้องการควบคุมการปรับแต่งเว็บไซต์ของคุณทั้งหมด
โดย WordPress.org เป็นโปรแกรมที่ใช้ในการสร้างเว็บ 1 ใน 3 ของเว็บไซต์ทั้งหมดบนอินเทอร์เน็ต ในทางกลับกัน ถ้าคุณมี Shopify ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซที่มีชื่อเสียงระดับโลกที่ธุรกิจหลักและคนดังใช้กัน ก็จะช่วยหนุนนำการสร้างทำธุรกิจของคุณได้เป็นอย่างดี โดย Shopify มีร้านค้าออนไลน์มากกว่า 600,000 แห่ง
การทำงานของ Shopify
มีการสร้างขึ้นเพื่อที่จะทำให้คุณเริ่มต้นร้านค้าออนไลน์ของตนเองได้อย่างง่ายดาย มีเครื่องมือทั้งหมดที่คุณต้องการเพียงปลายนิ้วสัมผัสเท่านั้น ต่างจาก Shopify ตรงที่ WordPress ไม่ได้ติดตั้งมาสำหรับอีคอมเมิร์ซ แต่มีปลั๊กอินที่ยอดเยี่ยมบางตัวที่คุณสามารถติดตั้งเพื่อเริ่มขายออนไลน์ได้ ซึ่งเราขอแนะนำปลั๊กอิน WooCommerce เพื่อเปลี่ยนไซต์ WordPress ของคุณให้เป็นร้านค้าออนไลน์ทันที ส่วนการตั้งค่าร้านค้าด้วย Shopify สิ่งที่คุณต้องทำคือสร้างบัญชี เลือกธีม เพิ่มสินค้าของคุณ ซึ่ง ในทางตรงกันข้าม WordPress ใช้เวลามากกว่าเล็กน้อย ต้องหาโฮสติ้งก่อน
ดังนั้นนี่คือข้อมูลของ shopify กับ wordpress ที่เรานำมาเสนอให้คุณได้ทำความรู้จักกันในวันนี้ และหวังว่าจะทำให้คุณมีโอกาสตัดสินใจในการสร้างเว็บ เลือกโปรแกรมที่ใช้ในการเปิดเว็บไซต์ในการทำธุรกิจออนไลน์คุณได้ดีมากยิ่งขึ้น และจะช่วยทำให้ธุรกิจของคุณเติบโตอย่างแน่นอน